พระครูจันทรสรคุณ (หลวงพ่อเสี่ยง) วัดเสมาใหญ่ ซึ่งเหรียญของท่านนั้นมีประสบการณ์และมีผู้นิยมเสาะหากันมาก

หลวงพ่อเสี่ยง ท่านเกิดในปี พ.ศ.2410 ที่บ้านเสมาใหญ่ ตำบลตะหนิน อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โยมบิดาชื่อบุญตา ตำแหน่งเสมียน โยมมารดาชื่อจันทร์ เมื่ออายุได้ 8 ขวบ บิดามารดานำไปฝากเรียนหนังสืออยู่ที่วัดเสมาเหนือ (วัดน้อย) กับหลวงพ่อมุ่ง เจ้าอาวาส พอถึงปี พ.ศ.2425 อายุได้ 15 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดนี้เอง ได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือกับพระอุปัชฌาย์ มีปัญญาแตกฉาน และในปี พ.ศ.2430 อายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดเสมาใหญ่ โดยมีพระอธิการแก้วเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เอาะเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์หนู (แหง่ม) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่อท่านได้อุปสมบทแล้วก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดเหนือ เมื่อออกพรรษาไปเรียนหนังสือมูลบทศัพท์แปลที่วัดหนองแขม อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น 1 ปี แล้วไปเรียนต่อที่จังหวัดหนองคาย 8 ปี จนจบหลักสูตรในสำนักนั้น ต่อมาท่านเป็นโรคเหน็บชา จึงได้กราบลาอาจารย์กลับมาพักรักษาตัวจนหายดี ด้วยความเพียรพยายาม ยังเห็นว่าความรู้ที่ไปเรียนยังไม่พอ จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์เดินทางมาศึกษาพระปริยัติธรรมและมูลกัจจายน์ต่อที่พระนครศรีอยุธยา จำพรรษาอยู่ที่วัดพนมยงค์ รวม 8 ปี จนสำเร็จการศึกษาบริบูรณ์ในสมัยนั้น

จากนั้นท่านก็ได้ปฏิบัติธรรมวิปัสสนาธุระ ในฤดูแล้งก็ออกรุกขมูลไปตามภูเขาและถ้ำ นานถึง 7 ปี ในการออกรุกขมูลท่านได้เล่าเรียนวิชาต่างๆ กับพระอาจารย์ต่างๆ จนแก่กล้า หลังจากที่ได้เห็นว่าอยู่ป่าพอแก่ความต้องการแล้ว ท่านจึงได้กลับมาจำพรรษายังวัดเสมาใหญ่และได้ถูกอาราธนาให้เป็นเจ้าอาวาส เนื่องจากพระอุปัชฌาย์แก้วได้มรณภาพ กิจกรรมต่างๆ ที่ท่านได้ปฏิบัติเมื่อเป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้มีการอบรมศีลธรรมแก่ชาวบ้าน สร้างโรงเรียนให้ลูกหลานชาวบ้านได้ศึกษา ต่อมาสมเด็จพระโพธิวงศาจารย์ในขณะนั้น ได้ออกตรวจราชการและได้แวะที่วัดนี้ ได�เห็นกิจกรรมต่างๆ ในวัดเจริญรุดหน้าและเรียบร้อย จึงได้แต่งตั้งหลวงพ่อเสี่ยงเป็นพระอุปัชฌาย์วิเชียร ต่อมาก็ได้เลื่อนเป็นพระครูกรรมการศึกษาในปี พ.ศ.2479 และต่อมาในปี พ.ศ.2481 ได้รับตราตั้งเป็นพระครูจันทรสรคุณ เจ้าคณะอำเภอ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2481

หลวงพ่อเสี่ยงท่านเป็นผู้มีญาณแก่กล้า จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และมีชื่อเสียงมากในจังหวัดนครราชสีมา วัตถุมงคลที่หลวงพ่อเสี่ยงได้สร้างไว้หลายอย่างเหมือนกัน เช่น เหรียญรูปเหมือนท่าน พระผงรูปเหมือน และผ้ายันต์ เป็นต้น วัตถุมงคลต่างๆ มีผู้มาขอไปใช้ติดตัว และมีประสบการณ์หลายอย่าง อาทิ นายดี ทวีฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านวังโพธิ์ อำเภอคง ถูกคนร้ายอาวุธครบมือ รุมทำร้ายด้วยอาวุธปืน แต่ไม่เป็นอันตรายอะไรเลย ในระหว่างที่หลวงพ่อเสี่ยงยังมีชีวิตอยู่นั้น เวลามีงานประจำปีของวัดจะมีผู้คนหลั่งไหลมาทั่วทุกสารทิศ มากราบขอพรและขอ เครื่องรางของขลังจากท่านเป็นจำนวนมาก จนบริเวณวัดเต็มไปหมดทั้งๆ ที่ในสมัยนั้นการเดินทางยากลำบากต้องใช้เกวียนเป็นพาหนะ ดังนั้น ภายในวัดจึงเต็มไปด้วยเกวียนพักแรม

ตลอดเวลาที่หลวงพ่อเสี่ยงเป็นเจ้าอาวาสนั้น ได้พัฒนาวัด สร้างโรงเรียนปริยัติธรรม ศาลาการเปรียญ ต่อเติมกุฏิและซ่อมแซมโบสถ์ ปกครองลูกวัดด้วยความเรียบร้อย จนกระทั่งถึงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2498 ท่านจึงได้มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 88 ปี พรรษาที่ 68

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน